สุนิษา ใบโพธิ์

การเดินป่าเป็นกิจกรรมที่ท้าทายและน่าตื่นเต้น แต่ก็ต้องอาศัยความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ หากเตรียมตัวไม่ดีพอ อาจทำให้การเดินป่ากลายเป็นประสบการณ์ที่น่าผิดหวังได้ ในบทความนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับวิธีการเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนออกเดินทาง 1. เริ่มฟิตร่างกายล่วงหน้า ไม่ควรรอจนถึงใกล้วันเดินป่าค่อยเริ่มออกกำลังกาย ควรเริ่มฝึกซ้อมอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ล่วงหน้า โดยเน้นกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มความอึดและความแข็งแรง เช่น 2. ฝึกการแบกเป้ น้ำหนักของเป้สะพายสามารถส่งผลต่อความเหนื่อยล้าได้มาก ควรฝึกแบกเป้ด้วยน้ำหนักใกล้เคียงของจริง และเดินในเส้นทางที่มีความชันบ้าง เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว 3. ยืดเหยียดและเสริมความยืดหยุ่น กล้ามเนื้อที่ยืดหยุ่นดีช่วยลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บได้ การยืดกล้ามเนื้อก่อนและหลังออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงฝึกโยคะหรือพิลาทิสเพื่อช่วยเรื่องความยืดหยุ่น 4. เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core) กล้ามเนื้อแกนกลางช่วยให้ทรงตัวดีขึ้นและลดแรงกดบนหลังเมื่อเดินแบกเป้ ฝึกท่าต่าง ๆ เช่น plank, sit-up และ bird-dog เป็นประจำ 5. เตรียมใจให้พร้อม นอกจากร่างกายแล้ว จิตใจก็สำคัญ ฝึกสมาธิหรือฝึกความอดทนในสถานการณ์จำลอง เช่น เดินทางไกลในอากาศร้อน ฝนตก หรือเส้นทางขรุขระ เพื่อให้คุ้นชินกับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น การเตรียมร่างกายก่อนเดินป่าไม่ใช่แค่เรื่องของความแข็งแรง แต่เป็นการลงทุนกับความปลอดภัยและความสนุกของการเดินทาง เมื่อร่างกายพร้อม ใจพร้อม Read more…

การเดินป่าเป็นกิจกรรมที่หลายคนใฝ่ฝัน เพราะมันให้ทั้งความสงบ ความท้าทาย และโอกาสได้หลีกหนีจากความวุ่นวายในเมือง แต่สำหรับมือใหม่แล้ว การเดินป่าครั้งแรกอาจทำให้รู้สึกกังวลว่าจะลำบากหรือหลงทางหรือไม่ การเตรียมตัวให้พร้อมจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง และนี่คือรายการสิ่งที่คุณควรมีและรู้ ก่อนจะออกเดินป่า 1. รองเท้าเดินป่า รองเท้าที่เหมาะกับการเดินป่า ไม่ใช่แค่รองเท้ากีฬาเท่านั้น ควรเลือกรองเท้าบู๊ทที่ออกแบบมาสำหรับเดินป่าโดยเฉพาะ มีพื้นรองเท้ากันลื่น ยึดเกาะได้ดี และรองรับข้อเท้าเพื่อลดโอกาสข้อเท้าพลิก หากเป็นเส้นทางชื้นหรือมีโคลน ควรเลือกรองเท้าที่กันน้ำด้วย เคล็ดลับ: สวมถุงเท้าหนาแบบกันการเสียดสี และใส่รองเท้าก่อนออกทริป 1-2 ครั้ง เพื่อให้เท้าคุ้นเคย 2. กระเป๋าเป้ กระเป๋าคือศูนย์รวมของทุกสิ่ง ควรเลือกขนาดพอดีกับระยะเวลาทริป เช่น • 20-30 ลิตร สำหรับทริปเดินป่าครึ่งวันถึง 1 วัน • 40-60 ลิตร สำหรับทริป 2-3 วัน ควรมีสายรัดหน้าอกและสะโพกเพื่อกระจายน้ำหนัก มีช่องใส่ของแยกเป็นสัดส่วน และถ้ามีช่องสำหรับใส่ถุงน้ำ จะช่วยให้ดื่มน้ำสะดวกขึ้นระหว่างเดิน 3. น้ำดื่มและอาหาร การขาดน้ำระหว่างเดินป่าอาจทำให้เป็นลม หรืออ่อนแรงได้ง่าย ควรเตรียมน้ำอย่างน้อย 2 Read more…

น้ำตกเปรโต๊ะลอซู หรือ น้ำตกปิตุ๊โกร นั้นตั้งอยู่บนเทือกเขาดอยสามหมื่น เป็นน้ำตกขนาดใหญ่สูงราวๆ 500 เมตร ไหลมาจากยอดเขามะม่วงสามหมื่น ลักษณะของน้ำตกจะไหลผ่านหน้าผาหินใหญ่ โดยชั้นน้ำตกที่ไหลนั้น เป็นไฮไลท์สำคัญ คือชั้นน้ำตกจะไหลมารวมกันจากทางซ้ายและขวาเป็นรูปตัววีขนาดใหญ่ รูปทรงดูคล้ายกับรูปหัวใจ เป็นที่มาของชื่อ น้ำตกรูปหัวใจสุดงดงามแห่งนี้นั่นเองโต๊ะลอซู      ถ้าใครที่ได้เดินป่าในทริปน้ำตกนี้แล้วก็จะต้องได้แวะยอดเขามะม่วงสามหมื่นด้วยอย่างแน่นอน เพราะถ้ามาไม่ถึงก็ถือว่ายังไม่ได้มาเหมือน เป็นอีกไฮไลท์คู่ของน้ำตกเปรโต๊ะลอซู ที่เรียกได้ว่ามีความท้าทาย พอๆ กันเลย ทั้ง ปีนผา ไต่ทางชัน เดินบนเสาเขา เป็นหัวใจแห่งขุนเขา ที่ต้องใช้ใจจริงๆ ในการเข้าถึง เพราะถ้าใจไม่ถึงพอก็อาจจะถอดใจ ยอมแพ้ไปกลางคันก็ได้เหมือนกัน       สำหรับใครที่สนใจมาที่นี่ ควรจะติดต่อคนนำทาง เพราะเส้นทางเดินป่า น้ำตกเปรโต๊ะลอซู และยอดเขามะม่วงสามหมื่นนี้ เป็นเส้นทางใหม่ ไม่ได้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ควรที่จะใช้ชาวบ้านที่ชำนาญเส้นทางนำทาง หรือสามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญในท้องถิ่นก็ได้เหมือนกัน แหล่งอ้างอิง : https://travel.trueid.net/detail/1XqPyBo31NLp แหล่งอ้างอิง : hptomego.com เว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อการศึกษาเท่านั้น มิได้มีเจตนาละเมิดลิขสิทธิ์

หมู่บ้านแม่กำปอง จังหวัดเชียงใหม่เป็นหมู่บ้านที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีอากาศดีตลอดปี การมาเยือนที่นี่ครั้งเดียวก็คงไม่พอ หากเราเดินเล่นตามถนนเส้นหลักของหมู่บ้านไปเรื่อยๆจะได้พบเห็นบ้านเรือน ร้านค้าของชาวบ้านและโฮมสเตย์ต่างๆที่เป็นอาคารไม้อยู่สองข้างทาง บรรยากาศดูอบอุ่นมาก สถานที่เที่ยวยอดฮิตของเชียงใหม่ ที่นี่เป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก ในรูปแบบท่องเที่ยงเชิงอนุรักษ์ ท่ามกลางหุบเขาและธรรมชาติ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,300 เมตร หมู่บ้านมีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี ชาวบ้านส่วนใหญ่อพยพมาจาก อ.ดอยสะเก็ด ลักษณะการสร้างบ้านเรือน อยู่บริเวณริมแม่น้ำลำธาร ท่ามกลางธรรมชาติที่คงความอุดมสมบูรณ์ รวมถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่มีความเรียบง่าย สภาพอากาศ เย็นสบายตลอดทั้งปี และจะมีอากาศหนาวเย็นมากในช่วงฤดูหนาว สถานที่ที่ห้ามพลาดเมื่อไปแม่กำปอง “The Giant Chiangmai” ที่เคยได้ยินชื่อเสียงมาว่าเป็นร้านกาแฟที่อยู่บนต้นไม้จึงขอแวะเข้าไปเช็กอินให้เห็นกับตาสักหน่อย บรรยากาศร้านนี้ต้องบอกว่าถ้ามาต้องร้องว้าวแน่นอน ยิ่งสายถ่ายรูปทั้งหลายต้องแวะเลยจริง ๆ อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต้อนรับนักท่องเที่ยวเยอะมาก โดยเฉพาะไฮไลต์ตรงทางเดินที่เป็นสะพานลิงและกิจกรรมโหนสลิงให้ไปเล่นได้ด้วย “น้ำตกแม่กำปอง” ซึ่งเป็นต้นน้ำของที่ไหลไปยังรอบหมู่บ้านแม่กำปอง ไม่ว่าจะเดินไปตรงจุดไหนก็จะได้ยินเสียงน้ำไหลตลอดเวลา น้ำตกแห่งนี่สามารถเดินขึ้นไปชมวิวทางด้านบนได้ด้วยนะทางอาจจะเป็นบันไดชันสักหน่อยแต่ก็เดินได้สะดวกอยู่เหมือนกัน ที่พักที่แนะนำเมื่อมาแม่กำปอง April Cottage (เอเพิลคอทเทจ) โฮมสเตย์สไตล์มินิมอลบนดอย ตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้านแม่กำปอง ท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่น เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศเงียบสงบ ความเรียบง่ายใกล้ชิดธรรมชาติ ที่ตั้ง Read more…