
เพราะลูกหมาน้อยยังมีภูมิต้านทานต่ำ ทําให้มีโอกาสเสี่ยงที่จะติดโรคต่างๆ ได้มากมาย เราจึงควรรู้จักโรคยอดฮิตในลูกหมากันว่ามีโรคใดบ้าง เพื่อจะได้รู้ทันโรค รู้จักวิธีป้องกัน และรักษาได้อย่างถูกต้องในวันที่น้องหมาป่วย สําหรับโรคยอดฮิตที่มักพบบ่อยในลูกหมาน้อยได้แก่
1.โรคไข้หัดสุนัข (Canine Distemper)🤒

เกิดจาก: เชื้อไวรัส
น้องหมากลุ่มเสี่ยง: ลูกหมาอายุ 3- 6 เดือน
อาการของโรค: ซึม เบื่ออาหาร ตามด้วยมีไข้สูง มีน้ำมูก ตาแดง มีน้ำตาและมีขี้ตาเกรอะกรัง ไอ รวมไปถึงอาจมีอาการท้องเสียและขาดน้ำร่วมด้วย โดยสิ่งที่สังเกตได้ง่ายเมื่อลูกสุนัขเป็นโรคนี้ คือฝ่าเท้าของลูกหมาจะหนาตัวขึ้นผิดปกติ และรุนแรงถึงมีอาการทางสมองและระบบประสาทร่วมด้วย เช่น ชัก เดินไม่ปกติ กระตุก
ความรุนแรงของโรค: ส่งผลต่อสมอง หรือระบบประสาท
การติดต่อของโรค: ติดต่อผ่านทางน้ำลาย การขับถ่าย การหายใจ และการจามได้อีกด้วย
การป้องกัน: เพราะเป็นโรคที่ไม่มีการรักษาโดยตรง ดังนั้นแนวทางการป้องกันจึงสําคัญที่สุด คือ พาน้องหมาไปฉีดวัคซีนอย่างถูกต้องตามคําแนะนําของสัตวแพทย์ คอยดูแลความสะอาด และให้อาหารสูตรลูกสุนัขที่เสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
2.โรคลําไส้อักเสบ (Canine Parvovirus)🦠

เกิดจาก: เชื้อไวรัส
อาการของโรค: ที่เห็นได้อย่างเด่นชัดคือ ท้องเสียอย่างรุนแรง ถ่ายเหลวพุ่งเป็นน้ำหรือเป็นเลือด อุจจาระมีกลิ่นเหม็นมาก พร้อมกับมีไข้ ซึม ขาดน้ำรุนแรง
ความรุนแรงของโรค: อันตรายถึงเสียชีวิตได้
การติดต่อของโรค: ติดต่อผ่านทางอุจจาระ และเชื้อที่ปนเปื้อนตามสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่น พื้นกรง น้องหมาด้วยกัน หรือแม้กระทั่งมือคนที่เคยสัมผัสกับน้องหมาที่ติดเชื้อ
การป้องกัน: ฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้ตามโปรแกรมวัคซีนอย่างเคร่งครัด ถ้าพบว่าลูกหมามีอาการท้องเสีย ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
3. โรคพยาธิเม็ดเลือด (Ehrlichiosis)🩸

เกิดจาก : การติดเชื้อจะทำให้แบคทีเรียเข้าสู่กระแสเลือดและไปอยู่ในเม็ดเลือดขาว ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อในร่างกาย
การป้องกัน: หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับเห็บ
• หากต้องเดินทางไปในพื้นที่ที่มีเห็บเยอะ เช่น ป่า หรือพื้นที่ที่มีหญ้าสูง ควรสวมเสื้อผ้าปิดมิดชิด เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และรองเท้าปิด เพื่อป้องกันการสัมผัสกับเห็บ
• หากเดินป่าหรือเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง ควรเลือกเส้นทางที่สะอาดและไม่รก
4. โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies) ⚠️

เกิดจาก : การติดเชื้อไวรัส Rabies virus ซึ่งเป็นไวรัสชนิดหนึ่งในตระกูล Rhabdoviridae ที่สามารถทำให้เกิดการอักเสบในสมองและไขสันหลัง ไวรัสนี้สามารถติดเชื้อได้ผ่านการกัดหรือข่วนจากสัตว์ที่ติดเชื้อ โดยเฉพาะสัตว์ที่มีเชื้อไวรัสในน้ำลาย เช่น สุนัข, แมว, ค้างคาว หรือสัตว์ป่าบางชนิด
การป้องกัน : ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
• สำหรับคน: การฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าควรทำในกรณีที่มีความเสี่ยง เช่น หลังจากถูกสัตว์ที่มีเชื้อไวรัสกัดหรือข่วน หรือหากมีการทำงานในสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง (เช่น พนักงานในฟาร์ม, เจ้าหน้าที่สัตวแพทย์) หรือเดินทางไปในพื้นที่ที่โรคพิษสุนัขบ้ามีการระบาด
• สำหรับสัตว์: ควรให้สุนัขและแมวได้รับการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไปยังมนุษย์
5. โรคหวัดในสุนัข (Kennel Cough) 🤧

เกิดจาก: การติดเชื้อของไวรัสและแบคทีเรียหลายชนิด ซึ่งสามารถแพร่กระจายได้ง่ายในสถานที่ที่มีสุนัขจำนวนมาก เช่น โรงแรมสุนัข (Kennels), ศูนย์ฝึกสุนัข หรือ สวนสาธารณะ ที่สุนัขมักจะมีการสัมผัสกับกันและกัน
การป้องกัน : การฉีดวัคซีนป้องกัน
• วัคซีนป้องกัน Bordetella bronchiseptica: การฉีดวัคซีนนี้จะช่วยป้องกันสุนัขจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Bordetella ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคหวัดในสุนัข
• วัคซีนป้องกัน Canine parainfluenza virus: ช่วยป้องกันไวรัสที่ทำให้เกิดอาการไอในสุนัข
• วัคซีนป้องกัน Canine adenovirus type 2: ช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อที่ทำให้เกิดอาการทางเดินหายใจ
• วัคซีนเหล่านี้มักจะเป็นส่วนหนึ่งของชุดวัคซีนพื้นฐานที่แนะนำให้สุนัขได้รับตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข และสามารถฉีดกระตุ้นในภายหลังตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
6. โรคท้องเสียจากการติดเชื้อ 💩

เกิดจาก : โรคท้องเสียจากการติดเชื้อในสุนัข (Canine Infectious Gastroenteritis) เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารของสุนัข ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุทั้งไวรัส, แบคทีเรีย และโปรโตซัว ที่ทำให้เกิดอาการท้องเสียรุนแรงและอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนได้
การป้องกัน : การฉีดวัคซีน
• วัคซีนป้องกันโรคไวรัสและแบคทีเรีย: ควรให้สุนัขได้รับวัคซีนที่จำเป็น เช่น วัคซีนป้องกันโรคพาราอินฟลูเอนซา, ดีสเตมเปอร์, และโรคท้องเสียจากเชื้อไวรัสอื่น ๆ ที่อาจทำให้สุนัขป่วย
• วัคซีนป้องกันโรตาไวรัส และ วัคซีนป้องกัน Bordetella bronchiseptica (เชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการไอ) ก็เป็นวัคซีนที่แนะนำในบางกรณี
“ อยากเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคนสำคัญของคุณ เพื่อให้เค้าและคุณได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขตลอดไป ”
ขอขอบคุณแหล่งที่มาจาก
0 Comments