อาการซึม

อาการซึมในสุนัข เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสุขภาพของสุนัขอาจมีปัญหา โดยปกติแล้ว สุนัขที่เคยร่าเริงและกระฉับกระเฉง อาจเริ่มแสดงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เช่น ขยับตัวน้อยลง เคลื่อนไหวช้ากว่าปกติ นอนมากขึ้น และดูไม่มีเรี่ยวแรง บางตัวอาจไม่สนใจสิ่งรอบตัว ไม่ตอบสนองต่อเจ้าของ หรือเลิกทำกิจกรรมที่เคยชอบ หากอาการซึมเกิดจากความเจ็บป่วย สุนัขอาจมีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย ส่งผลให้หงุดหงิด หรือแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวมากขึ้น

สาเหตุที่ทำให้สุนัขซึม

1. ปัญหาสุขภาพทางร่างกาย

– พบบ่อยในสุนัขสูงวัยที่ร่างกายเริ่มเสื่อมถอย ทำให้ปวดเมื่อยตามร่างกาย เคลื่อนไหวลำบาก และไม่อยากเล่น

– สุนัขที่กำลังป่วย อาจมีไข้ ปวดตามตัว หรือรู้สึกไม่สบาย ทำให้หมดแรงและต้องการนอนพักมากขึ้น

2. ภาวะความผูกพันมากเกินไป (Separation Anxiety)

– สุนัขที่ผูกพันกับเจ้าของหรือสัตว์เลี้ยงตัวอื่นมากเกินไป เมื่อต้องแยกจากกัน อาจเกิดอาการซึม เบื่ออาหาร ไม่ร่าเริง หรือแสดงพฤติกรรมกระวนกระวาย เช่น เห่า หอน ขับถ่ายไม่เป็นที่ ทำลายข้าวของ หรือเลียตัวเองบ่อย

– อาการนี้สามารถบรรเทาได้ด้วยการฝึกให้สุนัขค่อยๆ ปรับตัวกับการอยู่ลำพัง

3. อุปนิสัยส่วนตัวของสุนัข

– สุนัขบางตัวมีนิสัยไม่ขี้เล่นโดยธรรมชาติ หรือเคยเจอเหตุการณ์เลวร้ายในอดีต เช่น ถูกทอดทิ้งหรือถูกทำร้าย ทำให้มีอาการหวาดระแวง ขี้กลัว และซึมลง

– สุนัขที่เคยถูกทอดทิ้ง อาจมีปัญหาการปรับตัว ต้องใช้เวลาและความรักจากเจ้าของในการช่วยให้รู้สึกปลอดภัย

4. การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม

– การย้ายบ้าน ย้ายที่อยู่ หรือสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง อาจส่งผลต่อพฤติกรรมของสุนัข ทำให้ซึมลง

– ในบางประเทศที่มีฤดูกาลเปลี่ยนแปลงชัดเจน เช่น ฤดูหนาว สุนัขอาจนอนมากขึ้น เนื่องจากพลังงานในร่างกายลดลง

อาการเบื่ออาหารในสุนัข

หากสุนัขมีความอยากอาหารลดลงหรือเบื่ออาหาร และน้ำหนักลดลง อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพ สุนัขที่เคยกระตือรือร้นกับอาหารหรือชอบอาหารบางประเภท อาจแสดงอาการไม่สนใจอาหารแม้แต่สิ่งที่เคยชอบ สาเหตุของอาการนี้อาจมาจากการเจ็บป่วย เช่น โรคกระเพาะอาหาร การติดเชื้อ หรือปัญหาภายในอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการย่อยอาหาร หรืออาจเป็นอาการของโรคที่ร้ายแรง เช่น โรคตับ โรคไต หรือโรคมะเร็ง

สาเหตุของการเบื่ออาหารในสุนัข

1. ปัญหาของช่องปาก

การที่สุนัขมีอาการบวมหรือเลือดออกที่เหงือกอาจบ่งบอกถึงโรคเหงือกอักเสบ หรือเนื้องอกในช่องปาก ซึ่งทำให้สุนัขไม่ยอมทานอาหารได้

2. ปัญหาในช่องท้อง

การที่สุนัขไม่ทานอาหารอาจเกิดจากการย่อยขนมที่ไม่ดี หรือการเผลอกินสิ่งที่ไม่ควรกิน เช่น ของเล่นเล็กๆ ที่อาจทำให้เจ็บปวดท้องและไม่อยากทานอาหาร

3. ภาวะการขาดน้ำ

เมื่อสุนัขขาดน้ำ ร่างกายจะมีเลือดไหลเวียนน้อยลง ทำให้สุนัขรู้สึกซึม ไม่มีแรง และความอยากอาหารลดลง

4. เลือกกินหรือเบื่ออาหาร

สุนัขบางตัวอาจเริ่มเบื่ออาหารบางประเภทที่เคยชอบ หากเปลี่ยนเมนูหรือมีวัตถุดิบที่พวกเขาไม่ชอบ สุนัขอาจเลือกที่จะไม่ทานอาหาร

5. ให้ขนมมากเกินไป

การให้ขนมมากเกินไปอาจทำให้สุนัขไม่สนใจอาหารมื้อปกติ เพราะคาดหวังว่าจะได้กินขนมแทนอาหาร ดังนั้น ควรลดปริมาณขนมลงและกระตุ้นให้สุนัขกลับมากินอาหารมื้อหลัก

หากสุนัขมีอาการเบื่ออาหารหรือแสดงความผิดปกติอื่น ๆ ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อการตรวจสอบและรักษาที่เหมาะสม

พฤติกรรมการดื่มน้ำที่มากหรือน้อยเกินไปในสุนัข

ปริมาณน้ำที่สุนัขดื่มสามารถเป็นตัวบ่งชี้สุขภาพของสุนัข โดยเฉพาะในสุนัขสูงวัย หากสุนัขดื่มน้ำมากผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของไข้ โรคเบาหวาน หรือปัญหาการทำงานของไต ทั้งนี้ การดื่มน้ำมากร่วมกับปัสสาวะบ่อย อาจบ่งชี้ถึงโรคไตหรือเบาหวาน ในบางกรณี สุนัขที่กระหายน้ำมากผิดปกติหรือน้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ อาจกำลังเผชิญกับการติดเชื้อหรือภาวะสุขภาพที่ร้ายแรง

หากสุนัขดื่มน้ำน้อยกว่าปกติหรือไม่ยอมดื่มน้ำ อาจเป็นผลมาจากปัญหาทางเดินอาหาร ภาวะขาดน้ำ หรือโรคไต นอกจากนี้ หากพบว่าสุนัขปัสสาวะเป็นเลือด หรือปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ อาจเกิดจากการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบเลือดและมะเร็ง

หากพบอาการผิดปกติเหล่านี้ ควรพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วเพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างเหมาะสม

พฤติกรรมการปัสสาวะที่ผิดปกติในสุนัข

การปัสสาวะที่มากหรือน้อยผิดปกติในสุนัขอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ควรได้รับการใส่ใจ พฤติกรรมเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่ภาวะความเครียดไปจนถึงโรคร้ายแรง เช่นไต ฮอร์โมน หรือระบบทางเดินปัสสาวะ

สาเหตุที่อาจทำให้สุนัขปัสสาวะผิดปกติ
1. ปัสสาวะบ่อยหรือปริมาณมากเกินไป

• อาจเกิดจาก โรคเบาหวาน ซึ่งทำให้ร่างกายต้องขับน้ำตาลส่วนเกินออกทางปัสสาวะ ส่งผลให้สุนัขดื่มน้ำมากขึ้นและปัสสาวะบ่อยขึ้น

• โรคไต ทำให้ร่างกายไม่สามารถกรองของเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดภาวะปัสสาวะมากผิดปกติ

• ความผิดปกติของฮอร์โมน เช่น โรคคุชชิง (Cushing’s disease) ซึ่งทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลมากเกินไป ส่งผลให้สุนัขดื่มน้ำมากและปัสสาวะบ่อย

• การได้รับน้ำมากเกินไป ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุทางพฤติกรรม เช่น ความเครียด หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท อาจทำให้สุนัขปัสสาวะถี่ขึ้น

2. ปัสสาวะน้อยหรือไม่ค่อยปัสสาวะ

• หากสุนัขปัสสาวะน้อยลง อาจเกิดจาก ภาวะขาดน้ำ โรคไตระยะรุนแรง หรือโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ

• นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ หรือ การอุดตันของท่อปัสสาวะ ซึ่งพบได้บ่อยในสุนัขเพศผู้ อาจทำให้สุนัขปัสสาวะลำบากหรือปัสสาวะออกมาเพียงเล็กน้อย

• สุนัขที่มีอาการปัสสาวะลำบาก ควรได้รับการตรวจโดยสัตวแพทย์ทันที เพราะหากปล่อยไว้ อาจนำไปสู่ภาวะไตวายเฉียบพลันได้

3. ปัสสาวะเป็นเลือดหรือมีสีผิดปกติ

• ปัสสาวะสีเข้มหรือมีเลือดปน อาจเป็นสัญญาณของ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ซึ่งทำให้สุนัขปวดปัสสาวะบ่อยและอาจรู้สึกเจ็บขณะปัสสาวะ

• นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ อาจทำให้ปัสสาวะมีเลือดปนและเกิดการอักเสบในทางเดินปัสสาวะ

• ปัญหาด้านระบบเลือด เช่น โรคภูมิคุ้มกันทำลายเม็ดเลือดแดง (IMHA) หรือโรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด อาจทำให้มีเลือดปนในปัสสาวะ

• โรคมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะหรือไต อาจทำให้เกิดเลือดในปัสสาวะร่วมกับอาการซึม น้ำหนักลด หรืออาการปวดขณะปัสสาวะ

อาการผิดปกติของระบบทางเดินหายใจในสุนัข

อาการผิดปกติของระบบทางเดินหายใจในสุนัขอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่รุนแรง หากสุนัขมีอาการไอ หายใจลำบาก หรือมีน้ำมูก อาจเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา หรืออาจเป็นโรคที่ร้ายแรง เช่น โรคปอดบวม โรคหลอดลมอักเสบ หรือภาวะหัวใจล้มเหลว ซึ่งพบได้บ่อยในสุนัขพันธุ์เล็ก

สัญญาณเตือนที่ควรสังเกต

• ไอเรื้อรัง อาจเกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ หรือโรคหลอดลมตีบ

• หายใจลำบาก หอบเหนื่อย อาจเป็นอาการของโรคปอด หรือหัวใจล้มเหลว

• มีน้ำมูก ไอมีเสมหะ อาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อ เช่น ไข้หวัดสุนัข หรือปอดอักเสบ

• ลิ้นและเหงือกเปลี่ยนเป็นสีฟ้าหรือเขียว เป็นภาวะฉุกเฉินที่บ่งบอกว่าสุนัขขาดออกซิเจน ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

หากพบว่าสุนัขมีอาการผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ ควรติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และหากอาการไม่ดีขึ้นหรือรุนแรงขึ้น ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยเร็ว

ขอบคุณแหล่งที่มา

https://petplease.co/blogs/dog-knowledge/11-sign-of-sick-dogs/?srsltid=AfmBOooP816y_xHzMB-4beDlctIgvJs_lNRzSB3zld1ccfiXe-3NAwys

https://www.ivethospital.com/content/24101/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2-

https://thonglorpet.com/petdiary/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3


0 Comments

Leave a Reply

Avatar placeholder

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Facebook