พาสุนัขไปเที่ยวยังไงให้ปลอดภัยและสนุก?

พาสุนัขไปเที่ยวยังไงให้ปลอดภัยและสนุก? 🐶✈️ การพาน้องหมาไปเที่ยวเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ แต่เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น เจ้าของต้องมีการเตรียมตัวที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางโดยรถยนต์ หรือไปพักที่โรงแรมที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง มาดูกันว่าควรเตรียมอะไรบ้าง! 🏨 เลือกโรงแรมหรือที่พักแบบ Pet-Friendly – ตรวจสอบให้แน่ใจว่าที่พักอนุญาตให้นำสุนัขเข้าพัก และมีพื้นที่ให้น้องหมาวิ่งเล่นได้🏕️ เลือกสถานที่เที่ยวที่ปลอดภัย – หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีสัตว์ป่า หรือจุดอันตราย เช่น หน้าผาสูงหรือแม่น้ำที่มีกระแสน้ำแรง🛑 ศึกษากฎระเบียบของสถานที่ต่างๆ – บางที่อาจจำกัดขนาดหรือสายพันธุ์ของสุนัข ควรตรวจสอบก่อนเดินทาง “ การพาสุนัขไปเที่ยวเป็นโอกาสดีที่จะได้ใช้เวลาดีๆ ร่วมกัน แต่ต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อให้ทั้งคุณและเจ้าตัวโปรดปลอดภัยและสนุกสนานตลอดทริป เที่ยวสนุก สุขใจ ปลอดภัยสำหรับน้องหมา” 🐶✨ ขอบคุณแหล่งข้อมูลดีๆจากhttps://www.hospetal.co.th/content/3908/43-%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3-%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B8%A5 https://www.mazdajp.com/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7/

5 ขนมโฮมเมดสำหรับสุนัข ทำง่าย ดีต่อสุขภาพ

การทำอาหารโฮมเมดให้สุนัขเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเจ้าของที่ต้องการควบคุมคุณภาพของอาหารและให้สารอาหารที่เหมาะสมกับสุนัขของตนเอง อาหารที่ทำเองสามารถช่วยลดการใช้วัตถุกันเสียและสารเติมแต่งที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของสุนัข วันนี้เราจะมาแนะนำ 5 สูตรขนมโฮมเมดสำหรับสุนัข ที่มีทั้งสารอาหารครบถ้วนและปลอดภัย 1. คุกกี้ฟักทอง (Pumpkin Dog Biscuits) คุกกี้ฟักทองเป็นขนมเพื่อสุขภาพที่ช่วยในการย่อยอาหาร ฟักทองอุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารของสุนัขทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีวิตามิน A, C และ E ที่ช่วยบำรุงสายตาและระบบภูมิคุ้มกัน ส่วนผสม: – ฟักทองบด ½ ถ้วย- ไข่ 1 ฟอง – เนยถั่วแบบไม่มีน้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ – แป้งข้าวโอ๊ต 1 ถ้วย วิธีทำ: 1. ผสมฟักทองบด ไข่ เนยถั่ว และแป้งข้าวโอ๊ตเข้าด้วยกันในชามขนาดใหญ่ 2. ใช้ไม้คลึงแป้งรีดให้หนาประมาณ ½ เซนติเมตร 3. ใช้พิมพ์กดเป็นรูปต่างๆ ตามต้องการ 4. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ Read more…

วิธีช่วยสุนัขรับมือกับอาการแพ้อากาศหรือโรคภูมิแพ้

วิธีช่วยสุนัขรับมือกับอาการแพ้อากาศหรือโรคภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในสุนัข และอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของพวกมัน เช่นเดียวกับมนุษย์ สุนัขสามารถมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ อาหาร หรือสิ่งแวดล้อมได้ อาการที่เกิดขึ้นอาจมีตั้งแต่อาการคันเล็กน้อยไปจนถึงภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น ผิวหนังอักเสบเรื้อรัง หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการแพ้ของสุนัข รวมถึงสาเหตุและแนวทางการป้องกัน เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เจ้าของสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอาการแพ้อากาศหรือโรคภูมิแพ้ในสุนัข และแนวทางในการดูแลเพื่อช่วยให้พวกมันมีชีวิตที่สบายขึ้น โรคภูมิแพ้ (Allergy) ในสุนัขเกิดจากปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันที่ไวต่อสารบางชนิด ซึ่งโดยปกติแล้วสารเหล่านี้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย แต่สำหรับสุนัขที่มีภาวะภูมิแพ้ ร่างกายของพวกมันจะมองว่าสารเหล่านั้นเป็นสิ่งแปลกปลอมและพยายามกำจัดออก ส่งผลให้เกิดอาการแพ้ เช่น คัน ผื่นแดง หรือลมพิษ อาการแพ้ในสุนัขสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ อาหาร แมลง หรือสารเคมีบางชนิด การทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของภูมิแพ้จะช่วยให้เจ้าของสามารถดูแลสุนัขได้อย่างเหมาะสม 2.1 การแพ้อากาศหรือสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ (Atopy/Environmental Allergies) การแพ้ประเภทนี้เกิดจากการที่สุนัขสัมผัสหรือสูดดมสารก่อภูมิแพ้ที่ลอยอยู่ในอากาศ เช่น ฝุ่นละออง ละอองเกสรดอกไม้ เชื้อรา ขนสัตว์อื่น ควันบุหรี่ หรือควันจากการเผาไหม้อาการที่พบบ่อย ได้แก่ คันตามตัว ผิวหนังแดง หูอักเสบ น้ำมูกไหล Read more…

เคล็ด(ไม่)ลับสอนสุนัขขับถ่ายให้เป็นที่

” การฝึกสุนัขให้ขับถ่ายในที่ที่ถูกต้องเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญสำหรับเจ้าของสุนัขทุกคน เนื่องจากการขับถ่ายที่ผิดที่สามารถทำให้บ้านหรือพื้นที่อื่น ๆ สกปรกและมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ การฝึกฝนอย่างมีระเบียบและตามขั้นตอนสามารถช่วยให้สุนัขรู้ว่าเขาควรทำธุระในที่ไหน และทำให้เจ้าของไม่ต้องกังวลกับการทำความสะอาดอีกต่อไป “ 1. กำหนดจุดขับถ่ายที่เหมาะสมการเลือกจุดขับ ถ่ายเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญมาก ควรเลือกพื้นที่ที่สะดวกสบายและง่ายต่อการเข้าถึง ไม่ว่าจะเป็นมุมในบ้านหรือสวนข้างบ้าน จุดที่เลือกควรอยู่ในที่ที่สามารถควบคุมได้ง่ายและไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่อื่น ๆ ในบ้าน สุนัขจะรู้ว่าที่นี่คือจุดที่เขาต้องทำธุระ 2. สังเกตสัญญาณจากสุนัข สุนัขมักจะมีพฤติกรรมที่แสดงออกเมื่อเขาต้องการขับถ่าย เช่น การเดินวนไปวนมา การเห่า หรือการนั่งนิ่งๆ แล้วมองหาอะไรบางอย่าง หากพบพฤติกรรมเหล่านี้ คุณควรพาสุนัขไปยังจุดที่กำหนดทันที เพื่อไม่ให้เขาขับถ่ายผิดที่ 3. ทำความคุ้นเคยกับการขับถ่ายที่จุดที่กำหนดเมื่อพาสุนัขไปที่จุดที่เลือก ควรให้อยู่ในจุดนั้นเป็นเวลาสักพักและให้รางวัลทันทีเมื่อเขาทำธุระสำเร็จ รางวัลสามารถเป็นขนมสุนัขหรือคำชมเชยที่ทำให้เขารู้สึกดี การให้รางวัลจะทำให้เขาเชื่อมโยงการขับถ่ายกับสิ่งที่ดี 4. ฝึกให้สุนัขขับถ่ายตามเวลาการฝึกสุนัขให้มีเวลาในการขับถ่ายที่ชัดเจนจะช่วยให้เขามีการขับถ่ายที่ถูกต้องตามเวลาที่กำหนด เช่น หลังจากตื่นนอน หลังจากกินอาหาร หรือหลังจากเล่นเสร็จ ควรพาสุนัขไปที่จุดที่กำหนดในเวลาเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ 5. การใช้คำสั่ง การใช้คำสั่งที่ชัดเจน เช่น “ไปห้องน้ำ” หรือ “ไปทำธุระ” จะช่วยให้สุนัขเข้าใจสิ่งที่ต้องทำ หากทำตามคำสั่งแล้วเขาขับถ่ายในที่ที่ถูกต้อง ให้รางวัลเพื่อเสริมแรงจูงใจและให้เขาทำตามคำสั่งนี้ต่อไป Read more…

แนวทางการฝึกสุนัขเบื้องต้น: กุญแจสู่เจ้าตูบที่แสนรู้!

“การฝึกสุนัขเป็นมากกว่าการสอนให้ทำตามคำสั่ง แต่มันคือกระบวนการสร้างความเข้าใจระหว่างคุณกับสุนัข ทำให้เขาเรียนรู้วิธีปรับตัวและใช้ชีวิตร่วมกับคุณได้อย่างราบรื่น วันนี้เรามีแนวทางการฝึกสุนัขเบื้องต้นที่ครบถ้วนและละเอียดมาฝาก! “ 1. การฝึกให้สุนัขรู้จักชื่อของตัวเอง- การฝึกให้สุนัขจำชื่อของตัวเองให้ได้ ไม่ว่าจะสุนัขอายุน้อย หรือสุนัขแก่ เมื่อคุณรับเขามาดูแล คุณควรตั้งชื่อเรียกให้เขา ซึ่งชื่อควรมีเพียง 1-2 พยางค์ เพราะสุนัขตอบสนองได้ดีกับเสียงสั้นๆ จากนั้นคอยเรียกชื่อเขาซ้ำๆ ด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนและเป็นมิตร สบตากันเยอะๆ จะทำให้เขาเกิดความสนใจและจดจำเสียงนั้น หลังจากนั้นลองเริ่มทดสอบการจดจำของเขาว่าจำชื่อของตัวเองได้รึยัง ด้วยวิธีส่งทางสายตากับเขาและเรียกชื่อของเขา จากนั้นเมื่อเขาหันมาสบตา คุณต้องกล่าวคำชมเชย ให้เขารู้สึกว่าทำดี ทำถูกต้อง เพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจของเขา โดยให้เขามองที่ตาของคุณทุกครั้งที่คุณเรียกชื่อของเขา เขาจะจดจำน้ำเสียงของคุณและรับรู้ว่าทุกครั้งที่คุณใช้น้ำเสียงนั้น ที่สำคัญอย่าลืมให้รางวัลทุกครั้งที่คุณเรียกชื่อของเขาด้วย เป็นขนมหรือคำชม สิ่งนี้ช่วยสร้างสายสัมพันธ์และทำให้สุนัขเรียนรู้ว่าชื่อนี้หมายถึงตัวเขา 2. เลือกสถานที่ฝึกที่เหมาะสมเริ่มต้นฝึกในสถานที่ที่เงียบสงบ ไม่มีสิ่งรบกวน เพื่อให้สุนัขสามารถจดจ่อกับการฝึกได้ดีขึ้น เมื่อสุนัขเริ่มเข้าใจคำสั่งแล้ว ค่อยๆ เพิ่มสิ่งรบกวนเพื่อให้เขาคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมต่างๆ 3. การให้รางวัลและคำชมเชยการเสริมแรงบวกเป็นกุญแจสำคัญในการฝึกสุนัข เมื่อสุนัขทำตามคำสั่งหรือแสดงพฤติกรรมที่ดี ควรให้รางวัล เช่น ขนม คำชม หรือการลูบหัว เพื่อให้เขาเรียนรู้ว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นสิ่งที่ต้องการ 4. การฝึกคำสั่งพื้นฐาน Read more…

เช็กลิสต์ความพร้อมก่อนเลี้ยงสุนัข – คุณพร้อมแค่ไหน?

การรับสุนัขเข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัวเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความรับผิดชอบสูง ไม่ใช่เพียงแค่ความรัก แต่ต้องมีความพร้อมทั้งในด้านการดูแล เวลา และงบประมาณ หากคุณกำลังคิดจะเลี้ยงสุนัข ลองเช็กความพร้อมของตัวเองจากลิสต์นี้ก่อนตัดสินใจ! 1 เลือกสายพันธุ์ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณสุนัขแต่ละสายพันธุ์มีนิสัย ขนาด และระดับพลังงานที่แตกต่างกัน ควรเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของคุณ เช่น ✅ หากคุณเป็นสายลุย รักการออกกำลังกาย → ลองพิจารณาสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์, บีเกิล หรือบอร์เดอร์ คอลลี่ ✅ หากคุณอยู่คอนโดหรือมีพื้นที่จำกัด → สุนัขพันธุ์เล็กอย่างปอมเมอเรเนียน, ชิวาวา หรือเฟรนช์ บูลด็อก อาจเหมาะกว่า ✅ หากต้องการสุนัขที่ไม่ต้องการการดูแลมากนัก → สุนัขพันธุ์เชาเชา, ชิบะอินุ หรือเกรย์ฮาวด์ อาจเป็นตัวเลือกที่ดี ศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจ เพราะแต่ละสายพันธุ์ต้องการการดูแลและการฝึกที่แตกต่างกัน บ้านของคุณต้องเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยและเหมาะสมสำหรับสุนัข- ✅ พื้นที่เพียงพอ – ตรวจสอบว่าคุณมีพื้นที่ให้สุนัขเคลื่อนไหวหรือไม่ ✅รั้วต้องแข็งแรง – ป้องกันไม่ให้สุนัขหนีออกไปและเกิดอันตราย ✅สิ่งของอันตราย – เก็บสายไฟ Read more…

คู่มือการให้อาหารสุนัขแต่ละวัยช่วงวัย: เคล็ดลับเพื่อสุขภาพที่ดีของสุนัขคุณ

การให้อาหารที่เหมาะสมตามช่วงวัยเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้สุนัขมีสุขภาพแข็งแรง เติบโตอย่างสมบูรณ์ และมีพลังงานเพียงพอสำหรับกิจกรรมในแต่ละวันสุนัขในแต่ละช่วงวัยมีความต้องการสารอาหารที่แตกต่างกันการเลือกอาหารที่เหมาะสมจึงช่วยให้พวกเขามีสุขภาพที่ดีและอายุยืนยาว 1. ลูกสุนัขแรกเกิด – 2 เดือน: ช่วงเวลาของนมแม่และการเริ่มต้นอาหารแข็ง 1.1 นมแม่: อาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกสุนัขแรกเกิดลูกสุนัขแรกเกิดควรได้รับนมแม่เป็นหลักในช่วง 4-6 สัปดาห์แรก เนื่องจากนมแม่มีสารอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เช่น คอลอสตรัม (Colostrum) ซึ่งช่วยป้องกันโรคและเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง 1.2 การเริ่มต้นอาหารแข็งคนส่วนใหญ่มักจะเริ่มเลี้ยงสุนัขหลังจากหย่านมแล้ว คือ ช่วงอายุประมาณ 2-4 เดือน ซึ่งเป็นวัยที่ไม่ควรเปลี่ยนอาหารมากเท่าไรนัก เพราะอาจจะทำให้ปวดท้องได้ ฉะนั้นคนขายมักจะแนะนำและบอกข้อมูลของอาหารชนิดเดิมมาให้เสมอ เพื่อให้ผู้เลี้ยงนำมาผสมกับอาหารใหม่ได้อย่างเหมาะสม โดยในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก ควรผสมอาหารใหม่ในปริมาณเล็กน้อย จากนั้นก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งลูกสุนัขรู้สึกคุ้นเคยกับอาหารเมื่ออายุประมาณ 3-4 สัปดาห์ ลูกสุนัขสามารถเริ่มกินอาหารเม็ดที่แช่น้ำอุ่นหรือนมสำหรับลูกสุนัขให้มีเนื้อนุ่มขึ้น อาหารควรเป็นสูตรสำหรับลูกสุนัขที่มีโปรตีนสูง เพื่อช่วยให้กระดูกและกล้ามเนื้อแข็งแรงควรให้อาหาร 4-6 มื้อต่อวัน เพื่อให้ลูกสุนัขได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ 2. ลูกสุนัขอายุ 2 – Read more…

Facebook