คู่มือการให้อาหารสุนัข

น้องหมาเป็นสัตว์กินเนื้อ แต่ก็สามารถกินผักและผลไม้ได้เช่นกัน ผลไม้เป็นแหล่งที่ดีของวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพของน้องหมา • ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ผลไม้บางชนิด เช่น แอปเปิ้ล กีวี อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของน้องหมา ทำให้น้องหมามีสุขภาพแข็งแรง • บำรุงสายตา ผลไม้บางชนิด เช่น แครอท ฟักทอง และบลูเบอร์รี่ อุดมไปด้วยวิตามินเอ ซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพสายตาของน้องหมา • ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ผลไม้บางชนิด เช่น แอปเปิ้ล แตงโม อุดมไปด้วยใยอาหาร ซึ่งช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ทำให้น้องหมาขับถ่ายได้ง่ายขึ้น • ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง ผลไม้บางชนิด อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องเซลล์ของร่างกายจากความเสียหาย ทำให้ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง ผลไม้ที่น้องหมาทานได้ กล้วย มีวิตามินบี 6 โพแทสเซียม และไฟเบอร์สูง ช่วยให้ระบบประสาททำงานได้ดี ช่วยควบคุมความดันโลหิต และช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี แตงโม มีวิตามินเอ วิตามินซี ไลโคปีน ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี Read more…

📍ทาสหมาอย่างเรา ๆ แค่เห็นน้องมาทำสายตาอ้อนวอนขอกินอะไรสักอย่างก็แทบจะยื่นมือให้โดยอัตโนมัติ แต่เดี๋ยวก่อน! แน่ใจไหมว่าอาหารที่เราให้น้องหมากินแต่ละอย่างจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายเขา 🦴🐶 📍ถ้าอยากรู้ว่าอาหารอะไรที่ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้น้องหมากิน เราได้ลิสต์มาให้ทุกคนแล้วค่ะ📍 💎1.กระดูก ความจริงแล้วกระดูกไม่ใช่อาหารที่ดีต่อสุขภาพของสุนัขเท่าไหร่ ถ้าเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง แต่คนที่เลี้ยงสุนัขยังสามารถให้น้องกินกระดูกได้เพียงแต่ต้องเป็นกระดูกดิบเท่านั้น เพราะนิ่มและย่อยช่วยให้สุนัขย่อยได้ดี 💎2.ตับและเครื่องใน ตับและเครื่องในส่วนใหญ่จะมีธาตุฟอสฟอรัสเยอะ น้องหมาสามารถกินได้แต่อย่าให้เขากินเป็นประจำทุกวันหรือเกือบทุกวัน เพราะหากสุนัขได้รับฟอสฟอรัสเป็นระยะเวลานานจะทำให้ตับและไตทำงานหนักจนมีโอกาสเป็นนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะได้  💎3.นมวัวหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมวัว ร่างกายน้องหมาส่วนใหญ่จะขาดเอมไซน์สำหรับใช้ย่อยนมวัว เราอาจจะเห็นเขากินอย่างเอร็ดอร่อย แต่นมวัวจะทำให้สุนัขอาหารไม่ย่อย อาเจียน และท้องเสียได้ พวกผลิตภัณฑ์จากนมวัวอย่างเนยกับชีสก็ควรเซย์โนไปเลย  💎4.ช็อกโกแลต ขนมต้องห้ามที่ไม่ควรให้สุนัขกินเด็ดขาดก็คือช็อกโกแลต! เพราะในช็อกโกแลตมีสาร “Theobromine” ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับสารคาเฟอีน สารนี้จะกระตุ้นให้ร่างกายสุนัขหลั่งอะดรีนาลีน (Adrenaline) ทำให้หัวใจน้องเต้นเร็ว เหงื่อออกเยอะ ถ้ากินเข้าไปเยอะมาก ๆ สุนัขอาจมีอาการอาเจียน ท้องเสีย กระวนกระวาย จนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย 💎5.ไข่ดิบ ไข่ดิบอาจทำให้สุนัขอาหารเป็นพิษได้ เพราะไข่ดิบอาจปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียจนทำให้น้องหมาท้องเสีย นอกจากนี้ในไข่ดิบก็มีเอนไซม์อะวิดินที่ส่งผลต่อการดูดซับไบโอตินซึ่งเป็นสารที่จำเป็นต่อการบำรุงขนและผิวหนังของสุนัข ส่งผลให้สุนัขมีปัญหาเกี่ยวกับโรคผิวหนังได้ 💎6.หัวหอมและกระเทียม  คนที่เลี้ยงสุนัขไม่ควรให้อาหารที่มีส่วนผสมของหัวหอมและกระเทียมแก่สุนัขเด็ดขาด เพราะพวกนี้มีสารที่ชื่อว่า ไทโอซัลเฟต (Thiosulphate) ทำให้สุนัขเลือดจางได้ Read more…

📍การเปลี่ยนอาหารให้น้องหมาไม่ควรทำแบบทันที เพราะอาจทำให้ระบบย่อยอาหารของเขาแปรปรวนได้ ดังนั้นควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยทำตามขั้นตอนดังนี้ 🐶 2. เปลี่ยนอาหารแบบค่อยเป็นค่อยไป (7-10 วัน) ⭐️ วัน 1-3: ผสมอาหารใหม่ 25% กับอาหารเก่า 75% ⭐️ วัน 4-6: เพิ่มอาหารใหม่เป็น 50% และลดอาหารเก่าเหลือ 50% ⭐️ วัน 7-9: เพิ่มอาหารใหม่เป็น 75% และลดอาหารเก่าเหลือ 25% ⭐️ วัน 10: ให้อาหารใหม่ 100% 🐶 3. สังเกตการตอบสนองของน้องหมา 🐶 ระหว่างการเปลี่ยนอาหาร ให้สังเกตอาการต่างๆ เช่น 👉🏻 อุจจาระนิ่ม  👉🏻 มีอาการอาเจียน  👉🏻 ไม่สบายตัว หากเกิดปัญหา ให้หยุดเปลี่ยนอาหารและปรึกษาสัตวแพทย์

การให้อาหารที่เหมาะสมตามช่วงวัยเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้สุนัขมีสุขภาพแข็งแรง เติบโตอย่างสมบูรณ์ และมีพลังงานเพียงพอสำหรับกิจกรรมในแต่ละวันสุนัขในแต่ละช่วงวัยมีความต้องการสารอาหารที่แตกต่างกันการเลือกอาหารที่เหมาะสมจึงช่วยให้พวกเขามีสุขภาพที่ดีและอายุยืนยาว 1. ลูกสุนัขแรกเกิด – 2 เดือน: ช่วงเวลาของนมแม่และการเริ่มต้นอาหารแข็ง 1.1 นมแม่: อาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกสุนัขแรกเกิดลูกสุนัขแรกเกิดควรได้รับนมแม่เป็นหลักในช่วง 4-6 สัปดาห์แรก เนื่องจากนมแม่มีสารอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เช่น คอลอสตรัม (Colostrum) ซึ่งช่วยป้องกันโรคและเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง 1.2 การเริ่มต้นอาหารแข็งคนส่วนใหญ่มักจะเริ่มเลี้ยงสุนัขหลังจากหย่านมแล้ว คือ ช่วงอายุประมาณ 2-4 เดือน ซึ่งเป็นวัยที่ไม่ควรเปลี่ยนอาหารมากเท่าไรนัก เพราะอาจจะทำให้ปวดท้องได้ ฉะนั้นคนขายมักจะแนะนำและบอกข้อมูลของอาหารชนิดเดิมมาให้เสมอ เพื่อให้ผู้เลี้ยงนำมาผสมกับอาหารใหม่ได้อย่างเหมาะสม โดยในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก ควรผสมอาหารใหม่ในปริมาณเล็กน้อย จากนั้นก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งลูกสุนัขรู้สึกคุ้นเคยกับอาหารเมื่ออายุประมาณ 3-4 สัปดาห์ ลูกสุนัขสามารถเริ่มกินอาหารเม็ดที่แช่น้ำอุ่นหรือนมสำหรับลูกสุนัขให้มีเนื้อนุ่มขึ้น อาหารควรเป็นสูตรสำหรับลูกสุนัขที่มีโปรตีนสูง เพื่อช่วยให้กระดูกและกล้ามเนื้อแข็งแรงควรให้อาหาร 4-6 มื้อต่อวัน เพื่อให้ลูกสุนัขได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ 2. ลูกสุนัขอายุ 2 – Read more…